Saturday, August 27, 2016

ตอนที่ ๑๗ แสงธรรมสว่างไสวในเดนมาร์ก




        ศูนย์สาขาของวัดพระธรรมกายในภาคพื้นยุโรป  มีจำนวน ๓๐ ศูนย์สาขา มีพระเดชพระคุณพระราชภาวนาจารย์ เป็นประธานภาคพื้นฯ  พระเดชพระคุณพระวิเทศภาวนาธรรม เป็นรองประธานภาคพื้นฯ พระมหาวิวัติ ฌาเนสโก เป็นเลขาภาคพื้นฯ


 พระราชภาวนาจารย์ ประธานภาคพื้นยุโรป


พระวิเทศภาวนาธรรม รองประธานภาคพื้นยุโรป
พระมหาวิวัติ ฌาเนสโก เลขาฯภาคพื้นยุโรป




       ในปี ๒๕๕๗ นั้น อาตมาไปจำพรรษาที่ประเทศเดนมาร์ก จึงขอนำรายละเอียดเกี่ยวกับประเทศเดนมาร์กมาเล่าให้ฟังก่อน



         เดนมาร์ก ชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรเดนมาร์ก เป็นประเทศกลุ่มนอร์ดิก มีแผ่นดินหลักตั้งอยู่บนคาบสมุทรจัตแลนด์ ทางทิศเหนือของประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านทางบกเพียงประเทศเดียว ทางทิศใต้ของประเทศนอร์เวย์ และตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสวีเดน มีพรมแดนจรดทะเลเหนือและทะเลบอลติก เดนมาร์กมีดินแดนนอกชายฝั่งห่างไกลออกไปสองแห่ง คือหมู่เกาะแฟโรและกรีนแลนด์ ซึ่งแต่ละแห่งมีอำนาจปกครองตนเอง
เดนมาร์กเป็นประเทศองค์ประกอบที่มีการปกครองระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญและเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป แต่ยังไม่เข้าร่วมใช้สกุลเงินยูโร 



        ในปัจจุบันมีศูนย์สาขาของวัดพระธรรมกาย อยู่ ๒ แห่ง คือ
๑.วัดพระธรรมกายเดนมาร์ก อยู่เมืองจุ๊ยมิน เป็นศูนย์สาขาแรกของวัดพระธรรมกาย ที่มาบุกเบิกในประเทศเดนมาร์ก ปัจจุบันมีพระครูวิเทศจินดาภรณ์ เป็นเจ้าอาวาส



๒.วัดพระธรรมกายคอร์ซัวร์ ลุสท์สโกว มีพระครูปลัดภาวนาวัฒน์ เป็นเจ้าอาวาส

        พอเสร็จงานบวชสามเณรภาคฤดูร้อนที่วัดพระธรรมกายบาวาเรีย  หลวงพี่เจ้าคุณวิโรก็ให้เดินทางไปจำพรรษาที่วัดพระธรรมกายเดนมาร์ก จึงไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินมิวนิค ไปต่อเครื่องที่สนามบินเบอร์ลินไปลงที่สนามบินโคเปนเฮเกน
       พระสมฤทธิ์ จนฺทาโภ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเดนมาร์กในเวลานั้น มารอรับที่สนามบิน      ในวันนั้นมีพระอีก ๒ รูปเดินทางจากเมืองไทยเพื่อมาจำพรรษาที่เดนมาร์กด้วย คือพระมานพ ทนฺตจิตฺโต และพระพงษ์ศักดิ์ ชุณฺหารุโณ
       การเดินทางโดยรถยนต์ต้องข้ามสะพานแขวน ๒ สะพานเพื่อไปอีกเกาะหนึ่ง เป็นสะพานที่ยาวมาก เป็นทั้งสะพานรถยนต์และรถไฟ ใช้เวลานั่งรถประมาณ ๒ ชั่งโมงก็ถึงวัดพระธรรมกายเดนมาร์ก อยู่เมืองจุ๊ยมิน ระหว่างทางผ่านชายทะเล ผ่านท้องทุ่ง เห็นเนินหญ้าสีเขียว สุดลูกหูลูกตา ป่าสน และกังหันตั้งเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ดูละลานตายิ่งนัก






       เมื่อรถยนต์เลี้ยวเข้าทางหน้าวัดจะเห็นสัญลักษณ์พิเศษของวัดพระธรรมกายเดนมาร์ก คือ มีกังหันใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในวัด เป็นศูนย์สาขาหนึ่งเดียวในโลกที่มีกังหัน 


      บริเวณวัดปกคลุมไปด้วยต้นสนนานาพันธุ์และสนามหญ้าที่เขียวขจี เพราะสถานที่แห่งนี้แต่เดิมเป็นร้านอาหาร เขาปิดกิจการ เราจึงซื้อมาทำเป็นวัด รอบๆอาคารจึงจัดสวนไว้อย่างสวยงาม ช่วงนี้เป็นฤดูร้อน ทำให้สนามหญ้าเขียวขจี ต้นไม้ใบดก    แต่ถ้าช่วงฤดูหนาว จะมองเห็นแต่หิมะขาวโพลนไปทั่วบริเวณ ฤดูหนาวที่นี่จะหนาวมาก เพราะอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ 
        ในที่สุดอาตมาก็ได้มาถึงวัดพระธรรมกายเดนมาร์กโดยสวัสดิภาพ ปีนั้นมีพระมาจำพรรษา ๖ รูป คือ
๑.พระขจรศักดิ์ ทิพฺพกุโล
๒.พระชูชาติ อินฺทปญฺโญ
๓.พระมหาสมบัติ อินฺทปญฺโญ
๔.พระสมฤทธิ์ จนฺทาโภ เจ้าอาวาส
๕.พระมานพ ทนฺตจิตฺโต
๖.พระพงษ์ศักดิ์ ชุณฺหารุโณ

        เจ้าหน้าที่ ๒ ท่านคือ กัลฯรุจิรา ศรีสมัย (หนุน)
และกัลฯจิราภรณ์ เดชบุรัมย์ (ยุ้ย)

        กิจกรรมภายในพรรษามีดังนี้ 
- ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น
- สวดมนต์บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตรทุกวัน 
- วันเสาร์ - อาทิตย์มีกิจกรรมบ้านกัลยาณมิตร 
- วันอาทิตย์ต้นเดือนบูชาข้าวพระ เวลา ๓.๐๐ น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา ๙.๓๐ น.ตามเวลาประเทศไทย
- บูรณะปฏิสังขรณ์วัดเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานทอดผ้าป่าภาคพื้นยุโรป
         
                 พิธีบูชาข้าวพระ


        
      ในช่วงวันครูวิชชาธรรมกายก็ได้จัดบวชอุบาสิกาแล้ว มีการปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่และทำความดีสากล อุบาสิกาแก้วทุกคนที่มาบวชมีความเบิกบานและปลื้มปิติเป็นอย่างมากที่ได้มา ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
                  
               โครงการบวชอุบาสิกาแก้ว

    






    เจ้าของวัดรุ่นเยาว์

        
      ทุกเช้าและเพลมีญาติโยมเจ้าภาพผู้นำบุญรับบุญมาถวายภัตตาหารมิได้ขาด ทุกคนตั้งใจที่จะดูแลคณะสงฆ์เป็นอย่างดีและได้พาญาติพี่น้องมาทำบุญที่วัดด้วย เจ้าอาวาสเล่าให้ฟังว่า ในช่วงฤดูหนาว แม้วันที่หิมะลงหนัก ญาติโยมก็ยังฝ่าหิมะมาถวายภัตตาหารพระ ไม่เคยขาด นี่คือความเอาใจใส่ที่ลูกพระธัมฯชาวเดนมาร์กมีต่อคณะสงฆ์ เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอนุโมทนาบุญยิ่งนัก
  
        บางท่านญาติพี่น้องไม่ได้มาวัดก็จัดกิจกรรมบ้านกัลยาณมิตร นิมนต์พระไปนำปฏิบัติธรรมและแสดงธรรม ได้เชิญชวนญาติพี่น้องเพื่อนบ้านมาสร้างบุญร่วมกันด้วยการมาปฏิบัติธรรมและถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน เป็นการได้เชื่อมสายบุญสายสมบัติกันในหมู่ญาติและเพื่อนบ้าน แต่ละครั้งมีชาวท้องถิ่นมาร่วมงานด้วยหลายท่านทีเดียว

        เมื่อได้มาสัมผัสบรรยากาศที่ต่างประเทศจึงได้ทราบว่า คนไทยที่มาอยู่ต่างประเทศนั้น ต้องการจะทำบุญมากๆ เพราะจากบ้านมาไกลไม่มีโอกาสสร้างบุญ พอมีวัด ทุกคนดีใจมากที่มีโอกาสได้สร้างบุญ เพราะฉะนั้นการที่ได้เจอพระถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นมงคลสำหรับชีวิตเป็นอย่างยิ่ง ดังพุทธพจน์ที่ว่า 
                      สมณานญฺจ ทสฺสนํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ 
                        การเห็นสมณะเป็นมงคลอันสูงสุด
        ญาติโยมทุกคนบอกว่า "กราบขอบพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง ที่ส่งพระลูกชายให้ได้มาทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ต่างประเทศ ได้มาสร้างวัด ทำให้ลูกๆที่อยู่ต่างประเทศได้มีโอกาสสร้างบุญอย่างเต็มที่ เหมือนกับอยู่เมืองไทย"
         นับเป็นความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ที่หลวงพ่อทั้งสองมีต่อชาวโลก ไม่ให้ใครตกบุญ แม้อยู่ในดินแดนห่างไกล ถึงขั้วโลกเหนือ หลวงพ่อยังส่งพระลูกชายมาทำหน้าที่เป็นที่พึ่งให้กับญาติโยมที่ห่างบ้านช่องมาอยู่ในต่างแดน

          ก่อนออกพรรษา ในวันที่  ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๗ ได้จัดงานทอดผ้าป่าภาคพื้นยุโรป งานประชุมภาคพื้นยุโรป ๒๔ วัด งานมุทิตาพระมหาเถระและพระเถระ การได้เป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก เป็นโอกาสที่ให้ญาติโยมได้มีส่วนร่วมในบุญอย่างเต็มที่ และเกิดการหล่อหลอมกันในหมู่คณะลูกพระธัมฯเดนมาร์กเป็นอย่างดียิ่ง



         ดังนั้นก่อนงานทั้งคณะสงฆ์และญาติโยมชาวเดนมาร์กทุกคนทุ่มเททั้งแรงกายและ แรงใจช่วยกันเตรียมงานอย่างเต็มที่ ซึ่งงานนี้จะมีคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่มาร่วมประชุมหลายสิบรูป/ท่าน จึงต้องเตรียมการหลายอย่าง เตรียมที่พักให้เพียงพอ ทำฉากด้านหลังองค์พระ ตั้งเต็นท์สำหรับทานข้าวของสาธุชน จัดตั้งจุดตักบาตร ปูอิฐตัวหนอนทางเดินริมอาคาร

         เมื่อถึงวันงานทุกอย่างก็พร้อมสำหรับการดำเนินกิจกรรมต่างๆ กิจกรรมทุกอย่างราบรื่น ไม่ติดขัด มีคนมาร่วมงานประมาณ ๒๐๐ กว่าคน นับเป็นความปลาบปลื้มปีติใจเป็นอย่างยิ่ง ได้จัดงานมุทิตา๓๐ พรรษาให้หลวงพี่เจ้าคุณวิโรด้วย 
        ส่วนอาตมาได้รับมุทิตา ๒๐ พรรษา ซึ่งเป็นล็อคบุญมาจัดงานที่นี่พอดี
        ทั้งหมดล้วนเกิดจากความร่วมแรงร่วมใจกันของคณะสงฆ์และญาติโยมงานจึงสำเร็จลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

                     ทอดผ้าป่าภาคพื้นยุโรป ๒๔ วัด

                     
                     ประชุมเจ้าอาวาสภาคพื้นยุโรป ๒๔ วัด

        
 พระมหาเถระ ๒๐ พรรษา จำพรรษาภาคพื้นยุโรป ปี ๒๕๕๗
พอออกพรรษาเจ้าอาวาสก็อนุญาตให้ไปช่วยงานกฐินที่วัดพระธรรมกายบูโรส เสร็จงานกฐินที่บูโรสก็ไปเยี่ยมวัดพระธรรมกายนอร์เว ไปดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืนแถบขั้วโลกเหนือ

                     วัดพระธรรมกายบูโรส ประเทศสวีเดน


                     วัดพระธรรมกายนอร์เวย์ ประเทศนอร์เวย์

        กลับมาจากนอร์เวย์  เจ้าอาวาสก็อนุญาตให้ไปเยี่ยมตามศูนย์สาขาต่างๆและช่วยงาน ทอดกฐินด้วย จึงได้ไปเยี่ยมวัดพระธรรมกายเบอร์ลิน ไปช่วยงานทอดกฐินที่วัดพระธรรมกายแฟรงก์เฟิร์ต ขากลับก็แวะเยี่ยมวัดพุทธฮัมบวร์ก จำวัด ๑ คืน

     วัดพระธรรมกายเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี


วัดพระธรรมกายแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี

           วัดพุทธฮัมบวร์ก ประเทศเยอรมนี
         กลับมาจากการเยี่ยมชมและช่วยงานกฐินตามศูนย์สาขาแล้วก็จัดงานทอดกฐินที่วัดพระธรรมกายเดนมาร์ก เป็นปฐมกฐิน เพราะเป็นครั้งแรกที่มีพระเข้าพรรษาเกิน ๕ รูป ซึ่งตามพุทธบัญญัติ ที่อนุญาตให้วัดที่มีพระจำพรรษาครบ ๕ รูป รับผ้ากฐินได้
        การทอดกฐินครั้งนี้มีประธานกฐินใหญ่ร่วมกัน ๒ คณะคือ กัลฯมะลิ เรืองฤทธิ์สุริเดช และกัลฯวรรณิษา จีนกระสิกิจ
       ในวันงานทอดกฐินอากาศหนาวมาก ตอนแรกกำหนดไว้ให้ตั้งขบวนกฐินที่ลานจอดรถ แล้วเดินอัญเชิญผ้ากฐินมาเข้าห้องปฏิบัติธรรม

       พอถึงเวลาจริง อากาศหนาวมาก ลมแรง อาตมาก็ไปพูดสร้างบรรยากาศให้โยมปลื้มใจในบุญที่กำลังทำในขณะนี้ แต่พอผ่านไปสักครู่ ก็สัมผัสได้ว่า ถ้ายืนนานไปกว่านี้ จะเสียสุขภาพ จึงปรึกษากับทีมพิธีกรรม เปลี่ยนเป็นตั้งขบวนอัญเชิญผ้ากฐินที่หน้าห้องปฏิบัติธรรมแล้วเดินเข้าห้องปฏิบัติธรรมโดยให้เจ้าภาพทั่วไปเดินเข้ามาก่อนแล้ววางผ้าบริวารกฐิน บนแท่นที่เตรียมไว้แล้วนั่งรอต้อนรับท่านประธานกฐิน 
         เมื่อขบวนอัญเชิญผ้าไตรบริวารกฐินเข้าพื้นเรียบร้อยแล้ว 
         ขบวนท่านประธานกฐินทั้งสองคณะก็เดินอัญเชิญพานผ้ากฐินเข้าสู่ศูนย์กลางพิธี 
         กัลฯมะลิ เรืองฤทธิ์สุริเดช และกัลฯวรรณิษา จีนกระสิกิจ เป็นประธานใหญ่ทอดกฐินปีนี้ อัญเชิญผ้ากฐินอย่างงดงาม เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก พิธีกรรมทุกอย่างราบรื่นไม่ติดขัด 








       เมื่อเสร็จงานกฐินก็ถึงเวลาที่ต้องกลับไทย วันที่ต้องจากลาญาติโยมชาวเดนมาร์กรู้สึกใจหาย เพราะตลอดสามเดือนในพรรษา ได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างมากมาย ได้ถวายภัตตาหารเป็นประจำ ถึงเวลาต้องจากไปแล้ว ไม่ทราบเมื่อไรจะได้กลับมาอีก
 แต่ว่างานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา โอกาสหน้าคงจะได้พบกันใหม่ ขอบคุณและอนุโทนาบุญคณะสงฆ์ เจ้าหน้าที่และญาติโยมชาววัดพระธรรมกายเดนมาร์กที่ดูแลต้อนรับเป็นอย่างดี ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ประทับใจทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับจากที่นี่ 
ขออนุโมทนาบุญอีกครั้งครับ

       วันที่เดินทางกลับประเทศไทยพระสมฤทธิ์ จนฺทาโภ เจ้าอาวาสและพระมานพ ทนฺตจิตฺโต มาส่งที่สนามบิน ส่วนญาติโยมก็ส่งกันที่วัดเลยเพราะระยะทางไกลมาก ต้องเดินทางออกจากวัดตั้งแต่เช้ามืด เครื่องบินออกช่วงสายๆ เดินทางขึ้นเครื่องที่สนามบินโคเปนเฮเกนไปต่อเครื่องที่สนามบินเบอร์ลิน ลงเครื่องที่สนามบินมิวนิค ไปพักที่วัดพระธรรมกายบาวาเรียหนึ่งคืน ตอนเช้าเดินทางจากสนามบินมิวนิคโดยสายการบินเอติฮัช ไปต่อเครื่องที่สนามบินอาบูดาบี U.A.E.บินถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ
        พอกลับมาถึงเมืองไทยก็ได้เข้าไปกราบหลวงพ่อทัตตชีโว ถวายรายงานเรื่องการปฏิบัติศาสนกิจที่ประเทศเดนมาร์ก ได้รายงานท่านว่า " ที่วัดพระธรรมกายเดนมาร์กได้จัดกิจกรรมต่างๆ ญาติโยมมาช่วยกันดีมาก และชาวท้องถิ่นก็มาร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งชาวเดนมาร์กขยันมาก ในช่วงที่ผู้นำบุญอยู่ธุดงค์สุดสัปดาห์ พาสามีชาวเดนมาร์กมาด้วย มาพักที่วัดและช่วยซ่อมแซมกุฏิพระ พวกเขาลุกขึ้นแต่เช้าตรู่แล้วเริ่มงานเลย"
         และถวายรายงานเรื่องจัดบวชอุบาสิกาแก้ว โดยการนำทำความดีสากลมาฝึกผู้เข้าอบรม และได้ผลดีมากๆ พอรายงานจบ หลวงพ่อพูดให้ฟังว่า "ชาวเดนมาร์กมีวิถีชีวิตคล้ายคนไทย คือเป็นสังคมเกษตรกรรม เขาต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปดูพืชผักว่า มีแมลงมากินหรือเปล่า ทำให้วิถีชีวิตเขา สอดคล้องกับวิถีชีวิตของพระคือพระต้องตื่นแต่เช้ามาสวดมนต์ปฏิบัติธรรม ออกบิณฑบาต ทำให้พวกเขารับพระพุทธศาสนาได้ง่าย และการที่ได้ไปจัดบวชอุบาสิกาแก้วแล้วนำพวกเขาทำความดีสากลนั้นเป็นสิ่งที่ดี มากๆและทำถูกทางแล้ว เพราะเมื่อเราฝึกญาติโยมของเราให้ทำความดีสากล  พอกลับไปบ้าน เขานำสิ่งเหล่านี้ไปทำที่บ้าน สามีของเขาซึ่งเป็นชาวท้องถิ่นก็จะได้เห็นว่า เมื่อภรรยาเขาไปวัดแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี เขาจะได้ไม่ขัดขวางการมาวัดของภรรยา และอาจจะช่วยสนับสนุนให้มาวัดโดยสะดวกขึ้น และตัวสามีเมื่อได้เห็นสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นนี้ ก็จะสนใจที่จะมาปฏิบัติธรรมกับเราด้วย เราก็จะได้คนท้องถิ่นมาเข้าวัด สมเจตนารมณ์ที่หลวงพ่อธัมมชโยให้ไปสร้างวัดในต่างประเทศ ก็เพื่อให้ชาวท้องถิ่นในประเทศนั้นๆได้มาเข้าวัด มาปฏิบัติธรรม จะได้พบความสุขที่แท้จริง สันติภาพอันแท้จริงก็จะเกิดกับโลกใบนี้" แล้วท่านก็บอกให้ไปเขียนรายงานเรื่องนี้มาเพื่อจะได้แนวทางเป็นของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างแดนให้กับศูนย์อื่นๆด้ว
     กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เมตตาสั่งสอนและให้โอกาสลูกได้ฝึกฝนอบรมตนเองตลอดมา ได้มีการพัฒนาการในชีวิตยิ่งๆขึ้นไป




บรรยากาศโดยทั่วไปของประเทศเดนมาร์ก











  ขอขอบคุณภาพจากวัดพระธรรมกายเดนมาร์กและGoogle.com

อ.อินทปัญญา
๒๗ ส.ค. ๕๙













































































































34 comments:

  1. ครูบาอาจารย์ ท่านมีภาพขั้นตอนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ชัดเจนจริงๆ สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  2. อ่านที่หลวงพี่เขียนแล้วอยากไปยุโรปจังเลยเจ้าค่ะ อ่านถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองของพวกเราแล้วซาบซึ้ง ในความมุ่งมั่นเผยแผ่พุทธศาสนา ท่านมีสายตาอันกว้างไกล และมีเมตตาต่อทุกคน ขอบพระคุณและสาธุเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  3. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  4. สาธุ เจ้าค่ะ
    What's a nice journey in Europe... :D

    ReplyDelete
  5. อนุโมทนาบุญด้วยค่ะสาธุๆๆ♡

    ReplyDelete
  6. เอาบุญทุกบุญที่ได้ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างแดนมาฝากทุกท่านจ้า

    ReplyDelete
  7. จะมีสักกี่คน ที่มีอุดมการณ์แน่วแน่มั่นคง ในการมุ่งเผยแผ่งานพระศาสน์ขนาดนี้...

    กราบอนุโมทนากับบุญทุกบุญเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  8. ประชาชนชาวเดนมาร์กมีบุญจัง แม้อยู่แดนไกลก็ได้ศึกษาพระพุทธศาสนา ด้วยความเมตตาของมหาปูชนียาจารย์ อนุโมทนาค่ะ

    ReplyDelete
  9. กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาสาธุพระอาจารย์ทุกรูปที่นำ ความสว่างไสวไปสู่ใจของคนเดนมาร์กและภาคพื้นยุโรป สาธุกับลูกพระธัมมฯ ภาคพื้นยุโรปทุกท่านค่ะ สาธุ สาธุ

    ReplyDelete
  10. อ่านแล้วเหมือนได้ติดตามพระอาจารย์ไปเยี่ยมทุกศูนย์สาขาของวัดพระธรรมกายในยุโรปเลยเจ้าค่ะ ภาพชัดเจน บรรยายเยี่ยม กราบอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์ในทุกๆบุญเจ้าค่ะ กราบสาธุๆๆ

    ReplyDelete
  11. กราบ กราบ กราบ สาธุ สาธุ สาธุ ครับผม

    ReplyDelete
  12. กราบ กราบ กราบ สาธุ สาธุ สาธุ ครับผม

    ReplyDelete
  13. ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ

    ReplyDelete
  14. วัดสวยมากครับ

    ReplyDelete
  15. สาธู สถานที่สวยงามน่าอยู่ และมีแสงสว่างแห่งธรรมไปถึง จะทำให้สันติภาพแท้จริงบังเกิด

    ReplyDelete
  16. ขอกราบอนุโมทนาบุญค่ะสถานที่สวยน่าอยู่มากๆค่ะและมีแสงสว่างแห่งธรรมไปถึงจะทำให้สันติภาพแท้จริงบังเกิด

    ReplyDelete
  17. สาธุๆๆ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
    ในการเผยแผ่ธรรมะในต่างแดน เพื่อนำสันติสุขอันแท้จริงให้กว้างไกลไปทุกๆภูมิภาคทั่วโลก

    ReplyDelete
  18. ถ้าคิดนะ อายุวัดเริ่มปี2512 ถึง2559. 47ปีที่เริ่มมีวัดพระธรรมกาย แต่ดูสาขาทั้งใน และต่างประเทศนี่ ถือว่าเยอะมาก เผยแพร่ได้รวดเร็ว และสง่างามจริง ๆคะอนุโมทนาบุญคะ

    ReplyDelete
  19. กราบอนุโมทนาสาธุการทุกบุญค่ะ

    ReplyDelete
  20. กราบอนุโมทนาบุญกับพอจ.ด้วยเจ้าค่ะ อ่านแล้วปลื้มๆในบุญที่พอจ.ได้ไปปฏิบัติศาสนกิจยังต่างแดนจังค่ะ นมัสการค่ะ

    ReplyDelete
  21. อนุโมทนาครับให้ความรู้ดีมาก กราบนมัสการครับ.

    ReplyDelete
  22. สาธุค่ะ

    ReplyDelete
  23. กราบอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์ที่ไปทำหน้าที่แผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยครับ
    สาธุ

    ReplyDelete
  24. กราบอนุโมทนา สาธุค่ะ

    ReplyDelete
  25. กราบอนุโมทนา สาธุค่ะ

    ReplyDelete
  26. สาธุๆ งานเผยแพร่พระพุทธศาสนาในต่างแดนกำลังก้าวไกล เพราะทุกท่านมีใจดวงเดียวกัน มุ่งมั่นที่จะนำคำสอนของพระบรมศาสดา ไปสู่ใจชาวโลก

    ReplyDelete
  27. สาธุๆ งานเผยแพร่พระพุทธศาสนาในต่างแดนกำลังก้าวไกล เพราะทุกท่านมีใจดวงเดียวกัน มุ่งมั่นที่จะนำคำสอนของพระบรมศาสดา ไปสู่ใจชาวโลก

    ReplyDelete
  28. เอาบุญทุกบุญมาฝาก ขอให้ทุกท่านร่วมใจกันปกป้องพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่โลกไปตราบนานเท่านาน

    ReplyDelete