Friday, August 26, 2016

ตอนที่ ๑๖ พุทธธรรมรุ่งเรืองที่เมืองเยอรมนี

       ในเดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ อาตมาได้มีโอกาสไปช่วยงานหลวงพ่อเจ้าคณะภาค ๑๖ พระเดชพระคุณพระธรรมวิมลโมลี      (สงคราม อสิญาโณ ป.ธ.๙) ณ วัดไตรธรรมาราม      อ.เมือง จ.สุราษฏร์ธานี ช่วงนั้นมีงานอบรมพระนักเทศน์และงานอบรมเจ้าอาวาสใหม่ของคณะสงฆ์หนใต้ 

       พอเสร็จงานอบรมประมาณต้นเดือนกรกฎาคม ก็เดินทางกลับมาที่วัดพระธรรมกาย เข้าไปกราบหลวงพ่อทัตตชีโว แล้วถวายรายงานผลการไปปฏิบัติหน้าที่ๆภาคใต้ให้ท่านทราบ  ท่านก็อนุโมทนาและอนุญาตให้ไปปฏิบัติศาสนกิจที่ต่างประเทศ เพื่อไปเรียนรู้การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ นำสิ่งที่ได้ไปรู้ไปเห็นมาปรับใช้ในการรับบุญภายในวัดในโอกาสต่อไป จึงติดต่อไปที่พระมหาพิษณุ วิสุทฺธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายออสเตรียในขณะนั้น ท่านได้ประสานงานในภาคพื้นยุโรปให้ ซึ่งภาคพื้นยุโรปนั้นปัจจุบันมีศูนย์สาขาอยู่ทั้งหมด ๓๐ ศูนย์สาขา 

      ต่อมาได้รับคำตอบจากภาคพื้นยุโรปว่า ให้เดินทางไปที่วัดพระธรรมกายบาวาเรีย มีกำหนดการให้ไปในช่วงพรรษาหลัง ยังมีเวลาอีก ๑ เดือน จึงได้ช่วยจัดงานวันสมาธิโลก วันอาทิตย์ ที่  ๓ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ มีงานมุทิตาสักการะเปรียญธรรม ๙ ประโยคด้วย อาตมาได้รับหน้าที่ในส่วนของพิธีกรรมมุทิตาป.ธ.๙ ทั้งหมด ตั้งแต่จัดรถรับส่งป.ธ.๙ มางานมุทิตา ซักซ้อมพิธีกรรม และพาพระป.ธ.๙ เข้าสู่พิธีกรรมมุทิตาสักการะ ทุกพิธีกรรมก็ดำเนินไปอย่างราบราบรื่นไม่ติดขัด จนเสร็จพิธี ส่งพระป.ธ.๙ ขึ้นรถบัส ให้พระเจ้าหน้าที่พาท่านไปส่งที่สนามหลวงเพื่อให้เดินทางกลับวัดโดยสะดวก เป็นอันเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบ


 ซักซ้อมการขึ้นรับพัดรอง ให้พระป.ธ.๙ ได้เข้าใจลำดับพีธีกรรมทั้งหมด โดยให้ชมวีดีโอมุทิตาป.ธ.๙ปีก่อนๆ


 พระป.ธ.๙ ถ่ายภาพหมู่กับประธานสงฆ์ เป็นภาพที่งดงามอันเกิดจากการซักซ้อมเป็นอย่างดี


                       พระป.ธ.๙ พูดสุนทรพจน์อย่างองอาจ สมกับการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี


 

         หลังจากเสร็จงานมุทิตาป.ธ.๙แล้ว ในวันรุ่งขึ้น ก่อนเดินทาง ได้ไปร่วมงานฌาปนกิจศพคุณย่าของกัลฯองอาจ ธรรมนิทา เสร็จงานแล้วกลับมาถึงกุฏิเก็บของแพ๊คกระเป๋า จากนั้นเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ทวีปยุโรป โดยจะไปที่วัดพระธรรมกายบาวาเรีย ประเทศเยอรมนีเป็นอันดับแรก 

 ความเป็นมาของวัดพระธรรมกายบาวาเรีย 

 
    วัดพระธรรมกายบาวาเรีย เป็น ๑ ใน ๓๐  ศูนย์สาขาของภาคพื้นยุโรป มีจุดเริ่มต้นจาก ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ สาธุชนคนไทยในเมืองเอาสบวร์ก (Augsburg) มีความสนใจในการศึกษาพระพุทธศาสนาและมีใจใฝ่ในการทำบุญ  ได้นิมนต์พระภิกษุวัดพระธรรมกายที่มาศึกษาด้านศาสนาอยู่ที่เมืองไฟร์บวร์ก  ให้มาแนะนำการปฏิบัติธรรมและเป็นเนื้อนาบุญให้แก่สาธุชน จนกระทั่งมีการรวมกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น มีความพร้อมที่จะดำเนินการปักหลักพระพุทธศาสนา ในปลายปีนั้นจึงได้ดำเนินการจดทะเบียนเป็นสมาคม  ชื่อว่า”สมาคมพุทธไทยเยอรมัน  แห่งสหพันธสาธารณรัฐเยอรมนี – Thailandisch- Deutsche Buddischtische Vereinigung Deutschland e.V.” โดยเช่าสถานที่สมมติเป็นเขตวัด  โดยวัดพระธรรมกายได้ส่งพระมาประจำอยู่ ๑ รูป คือพระนที  นนฺทภทฺโท(ปัจจุบันได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนาม ที่ พระครูภาวนานันทวิเทศ) ดำเนินการในนาม “วัดพุทธเอาสบวร์ก – Wat Buddha Augsburg)


       ปี พ.ศ. ๒๕๕๐  วัดสาขาของวัดพระธรรมกาย  ในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน ๑๕ วัดสาขา โดยมีวัดพุทธเอาสบวร์กเป็นฝ่ายประสานงานกลาง  

      ในปีนี้เองจึงได้จัดซื้อที่ดินพร้อมอาคารถาวร ในพื้นที่ ๑๑ ไร่เศษในเมืองเคอนิคสบรุนน์ (Koenigsbrunn) และได้เข้าอยู่ในเดือนตุลาคม  พร้อมทั้งดำเนินการเปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดพระธรรมกายบาวาเรีย ( Wat Phra Dhammakaya Bavaria )" โดยมีภารกิจในการประสานงานการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั่วภาคพื้นยุโรป  สนับสนุนด้านบุคลากรและสื่อธรรมะ เป็นสถานที่ฝึกอบรมเยาวชนทั่วภาคพื้นยุโรป  เป็นศูนย์ประสานงานกลางกับพุทธศาสนานิกายต่างๆในยุโรป


       ปีพ.ศ.๒๕๕๑ – ปัจจุบัน มีพระเดชพระคุณพระวิเทศภาวนาธรรม (ไวโรจน์ วิโรจโน) เป็นเจ้าอาวาส  ได้ดำเนินการก่อสร้าง ปรับปรุงอาคาร สถานที่เพื่อให้เป็นที่ๆเหมาะสมสำหรับการบำเพ็ญบุญของสาธุชนผู้ใฝ่ในการทำ บุญทั้งชาวไทย และชาวท้องถิ่น การดำเนินการได้สำเร็จมาได้ในระดับที่น่าพอใจแล้ว คณะกรรมการ ซึ่งมี พระวิเทศภาวนาธรรม (ไวโรจน์ วิโรจโน) (ซึ่งในขณะนั้นดำรงสมณศักดิ์ พระครูสังฆรักษ์) เป็นประธานจึงจะได้จัดให้มีการเปิดวัดอย่างเป็นทางการ ในวันอาทิตย์ ที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ 


    พระวิเทศภาวนาธรรม เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายบาวาเรีย รองประธานภาคพื้นยุโรป






       ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๔  พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ได้ทำพิธีประดิษฐานลูกนิมิต ผูกสีมา  อุโบสถวัดพระธรรมกายบาวาเรีย สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยมีพระเดชพระคุณพระวิสุทธิวงศาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานสงฆ์


พิธีผูกสีมา อุโบสถ วัดพระธรรมกายบาวาเรีย

 

 

 

 

          เมื่อถึงเวลา อาตมาก็ได้เดินทางไปวัดพระธรรมกายบาวาเรีย พร้อมสหธรรมิกอีกรูปหนึ่งคือ พระมหาศิลาวุฒ อโนมชโย นั่งเครื่องบินของสายการบินเอติฮัท

ไปลงที่สนามบินมิวนิค อุบาสกพิสิทธิ์ หมื่นแกล้ว นำรถยนต์มารับที่สนามบินพาไปวัดพระธรรมกายบาวาเรีย 

       การเดินทางไปวัดพระธรรมกายบาวาเรียนั้น รถวิ่งบนทางด่วน ซึ่งที่นี่เรียกว่า ออโตบาห์น พาหนะที่ใช้งานบนออโตบาห์นได้ จะต้องเป็นพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และมีความเร็วไม่ต่ำกว่า ๖๐กม./ชม. สามารถขับได้เร็วโดยไม่ต้องกลัวถูกจับ เพราะถนนสายนี้กำหนดให้รถวิ่งเร็ว ห้ามวิ่งช้า ปัจจุบันโครงข่ายของออโตบาห์นในเยอรมนี มีความยาวทั้งสิ้น ๑๒,๙๑๗ กิโลเมตร ถึงแม้รถจะวิ่งเร็ว แต่ถนนออโตบาห์นในเยอรมนีได้ชื่อว่าเป็นทางหลวงสายหนึ่งที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุต่ำที่สุด

     ระหว่างทางเห็นท้องทุ่งเขียวขจี สลับกับป่าสนและหมู่บ้าน บ้านเมืองเขาเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอย ดูสงบเงียบดีมาก


           เดินทางไม่นานก็ถึงวัดพระธรรมกายบาวาเรีย เป็นวัดที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก มีพระครูวิเทศธรรมภาวนา เป็นเจ้าอาวาส ปัจจุบันท่านได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระวิเทศภาวนาธรรม ซึ่งพวกเราจะเรียกท่านว่า หลวงพี่เจ้าคุณวิโร และมีพระมหานิกรณ์ สุทฺธรตโน เป็นรองเจ้าอาวาส 

       เดินทางไม่นาน ก็มาถึงวัด ยกกระเป๋าเข้าห้องพัก จากนั้นพระมหาสว่าง สุภภาโส ก็นำไปกราบเจ้าอาวาส ท่านถามสารทุกข์สุกดิบและชวนฉันชา ท่านบอกว่า อย่าเพิ่งรีบจำวัด เดี๋ยวกลางคืนจะไม่หลับ ที่ท่านบอกอย่างนี้เพราะเวลาที่เยอรมนีกับที่ไทยจะต่างกันมาก

  เจ้าอาวาสต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก

        กิจวัตรกิจกรรมที่นี่มีการสวดมนต์ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น สวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรทุกวัน ถึงเวลาภัตตาหารก็ไปฉันเช้าฉันเพลที่หอฉัน อาหารมีหลากหลาย ญาติโยมเจ้าภาพมาเลี้ยงภัตตาหารทุกวันมิได้ขาด บางวันก็แบ่งพระไปนำปฏิบัติธรรมที่บ้านกัลยาณมิตรตามเมืองต่างๆ

        หลังฉันเช้าเสร็จ หลวงพี่เจ้าคุณวิโร ก็นำทำความดีสากล ทั่วทั้งวัด เป็นกิจกรรมที่ดีมาก ได้ออกกำลังกายด้วย เพราะที่นี่อากาศค่อนข้างหนาว และวัดก็สะอาด ข้าวของเป็นระเบียบ พอได้ทำความสะอาดทุกวัน งานก็ไม่เยอะมาก ทำไม่นานก็เสร็จ ไม่เป็นภาระของรูปใดรูปหนึ่งด้วย เพราะเมื่อรับบุญพร้อมกัน เลิกพร้อมกัน เป็นพลังแห่งความสามัคคี ใครเห็นอะไรยังไม่เรียบร้อย ช่วยกันจัดเก็บ ช่วยกันทำความสะอาด ทุกอย่างก็ลงตัว อย่างที่หลวงพ่อทัตตชีโวได้สอนไว้ว่า "คนเป็นหัวหน้า เงาต้องทาบงาน"  

         หลวงพี่เจ้าคุณวิโร เป็นตัวอย่างในเรื่องนี้ได้ดีมากครับ เรียกได้ว่า ท่านนำคำสอนของครูบาอาจารย์มาปฏิบัติให้น้องๆเห็นเป็นตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรม เป็นบุคลาธิษฐานที่ชัดเจนมาก ใครเป็นหัวหน้างาน ต้องมาศึกษางานจากท่าน จะได้ประโยชน์อย่างมหาศาล


    ช่วงนั้นที่วัด มีโครงการอบรมสามเณรภาคฤดูร้อน มีพระสมเกียรติ กิตฺติคุโณ  เป็นหัวหน้าโครงการ มีพระธีระ อตฺตทนฺโตและพระมหาเปรียญบวชอุทิศ พรรษา ๓ ที่มาปฏิบัติงานอีก ๒ รูปคือ พระมหาพลวิทย์ เขมินฺทชโย  และพระมหาชาญชัย ชวนชโย ได้ทำหน้าที่เป็นพระพี่เลี้ยง   ในวันบวช อาตมาได้ไปช่วยในพิธีกรรมงานบวช จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี 

     


 พิธีตัดปอยผมนาคธรรมทายาทภาคฤดูร้อนปี ๒๕๕๗และงานบรรพชา

        

   

        มีโอกาสได้พูดคุยกับญาติโยมที่มาวัด ได้ทราบว่า ญาติโยมทุกคนผูกพันกับวัดมาก วันไหนมีเวลาว่างต้องรีบมาวัด ช่วงสุดสัปดาห์ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ก็มาค้างที่วัด เพื่อจะได้มีโอกาสนั่งธรรมะเยอะๆและได้ทำภัตตาหารถวายพระ ประเคนภัตตาหารพระ รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจและมีความสุขที่ได้มาวัด 

      อาตมาได้ฟังแล้วรู้สึกปลาบปลื้มปิติใจแทนหมู่คณะที่วัดพระธรรมกายบาวาเรียยิ่งนัก แสดงว่าคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่ได้ดูแลญาติโยมอย่างดี ทำให้ญาติโยมมีความสุข รู้สึกอบอุ่นที่ได้มาวัด เป็นสิ่งที่น่าอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งขออนุโมทนาบุญกับคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกายบาวาราเรีย ทุกรูปทุกท่านครับ

         ได้มาอยู่ที่นี่ประมาณ ๑ สัปดาห์ รู้สึกมีความสุขและอบอุ่นมากครับ
          พอใกล้ถึงวันเข้าพรรษาหลัง หลวงพี่เจ้าคุณวิโร ก็แจ้งว่า ทางวัดพระธรรมกายเดนมาร์ก ต้องการพระเข้าพรรษาเพิ่มอีก ๑ รูป ให้พระมหาสมบัติ ไปจำพรรษาที่เดนมาร์กนะ พรุ่งนี้เดินทางได้เลย 

        สรุปว่า ปีนั้นไม่ได้จำพรรษาที่วัดพระธรรมกายบาวาเรีย ต้องไปจำพรรษาที่วัดพระธรรมกายเดนมาร์ก ซึ่งเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปครับ

บรรยากาศในแคว้นบาวาเรีย


ขอบคุณภาพจากภาคพื้นยุโรปและGoogle.com

อ.อินทปัญญา
๒๖ ส.ค.๕๙






























67 comments:

  1. ยุโรปสวยงามมาก นับเป็นประวัติศาสตร์ชีวิตที่มีคุณค่ายิ่ง ที่ได้ไปเยือนวัดพระธรรมกายบาวาเรีย ประทับใจไม่รู้ลืมเจ้าค่ะ กราบอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์ ที่นำมาเล่าให้ได้ทบทวนบุญอีกรอบ กราบสาธุๆๆเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  2. ยุโรปสวยงามมากเลย ดีใจกับพระอาจารย์ด้วยที่ได้ไปมาแล้ว. กราบอนุโมทนา สาธุ เขียนได้สนุกและมีเนื้อหาดีมากเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. สาธุๆๆกราบอนุโมทนาบุญค่ะ

      Delete
    2. สาธุๆๆกราบอนุโมทนาบุญค่ะ

      Delete
  3. การเผยแผ่งานพระพุทธศาสนาไปทั่วโลก...สาธุๆ

    ReplyDelete
  4. ขอกราบอนุโมทนาบุญค่ะ สาธุๆๆ

    ReplyDelete
  5. สาธุๆเป็นสถานที่เหมาะสมที่สุด

    ReplyDelete
  6. #สวยมากๆเลยน่าไปเปลี่ยนบรรยากาศในการปฏิบัติธรรม
    #..ท่านใดที่อยู่ใกล้ๆบริเวณนั้นบรรยากาศน่านั่งธรรมะจริงๆ..
    จึงขอเรียนเชิญไปนั่งธรรมะกันนะคะ
    #กราบอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่มีส่วนในการสร้างบุญที่แห่งนี้ค่ะ

    ReplyDelete
  7. การเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา เป็นสิ่งสำคัญมาก มีคนที่รออยู่อีกมากมายทั่วทุกมุมโลก เอาโอกาสไปให้เขาครับ

    ReplyDelete
  8. การสร้างวัดที่ใหญ่ งดงามและสัปปายะ อย่างเหมาะสม เป็นสิ่งจูงใจให้ผู้คนเข้ามาศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมชาวพุทธ

    ReplyDelete
  9. การสร้างวัดที่ใหญ่ งดงามและสัปปายะ อย่างเหมาะสม เป็นสิ่งจูงใจให้ผู้คนเข้ามาศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมชาวพุทธ

    ReplyDelete
  10. คนเยอรมันเป็นคนมีปัญญาค่ะ พุทธศาสนาก็เป็นศาสนาแห่งปัญญา

    ReplyDelete
  11. คนเยอรมันเป็นคนมีปัญญาค่ะ พุทธศาสนาก็เป็นศาสนาแห่งปัญญา

    ReplyDelete
  12. คนเยอรมันเป็นคนมีปัญญาค่ะ พุทธศาสนาก็เป็นศาสนาแห่งปัญญา

    ReplyDelete
  13. สวยงามมากเจ้าค่ะ 😀

    ReplyDelete
  14. สวยงามมากเจ้าค่ะ 😀

    ReplyDelete
  15. ติดตามและชื่นชมค่ะ ยุโรปธรรมชาตสวยงาม สงบดีนะคะ

    ReplyDelete
  16. สาธุ อนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  17. ทำให้นึกย้อนหลังกลับไปภาพเก่าๆ สมัยยังเรียนหนังสืออยู่ที่นั่นเคยไปวัดเอ้าส์บวกตอนมาฆบูชาปี2546 ลงทุนนั่งรถไฟหัวกระสุน(ICE)จากเมืองฟรายบวกมาเลย พระอาจารย์ที่เอา์บวกท่านใจดี ให้ลูกศิษย์ชาวเยอรมันขับรถเบนซ์มารับที่สถานีรถไฟเลย ขากลับเงินเกือบหมดตัวต้องอาศัยรถทิศปอง(ปัจจุบันคือหลวงพี่ปอง)กลับไปเมืองออฟเฟนบวกแล้วต่อรถไฟกลับไปเมืองฟรายบวก กลับบ้านตีสอง เช้าไปเรียนหนังสือต่อ55

    ReplyDelete
  18. ทำให้นึกย้อนหลังกลับไปภาพเก่าๆ สมัยยังเรียนหนังสืออยู่ที่นั่นเคยไปวัดเอ้าส์บวกตอนมาฆบูชาปี2546 ลงทุนนั่งรถไฟหัวกระสุน(ICE)จากเมืองฟรายบวกมาเลย พระอาจารย์ที่เอา์บวกท่านใจดี ให้ลูกศิษย์ชาวเยอรมันขับรถเบนซ์มารับที่สถานีรถไฟเลย ขากลับเงินเกือบหมดตัวต้องอาศัยรถทิศปอง(ปัจจุบันคือหลวงพี่ปอง)กลับไปเมืองออฟเฟนบวกแล้วต่อรถไฟกลับไปเมืองฟรายบวก กลับบ้านตีสอง เช้าไปเรียนหนังสือต่อ55

    ReplyDelete
  19. กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ สาธุ สาธุ

    ReplyDelete
  20. กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ สาธุ สาธุ

    ReplyDelete
  21. กราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ

    ReplyDelete
  22. สาธุ พระพุทธศาสนาจะไปทั่วโลกแล้ว

    ReplyDelete
  23. สนุกมากครับ
    ภาพก็สวย
    น่าติดตามตอนต่อไป
    อนุโมทนาบุญครับ

    ReplyDelete
  24. ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ

    ReplyDelete
  25. อนุโมทนาบุญด้วยนะเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  26. สาธุเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  27. กราบขอบพระคุณท่านที่เล่าเรื่องวัดพระธรรมกายในต่างแดนให้สาธุชนได้มีโอกาสปลื้มปีติในบุญร่วมกันค่ะ สาธุ

    ReplyDelete
  28. กราบอนุโมทนาสาฺธุการค่ะ เห็นแล้วปลื้ม ความสำเร็จการเผยแผ่พระพุทธศาสนา

    ReplyDelete
  29. กราบอนุโมทนาสาฺธุการค่ะ เห็นแล้วปลื้ม ความสำเร็จการเผยแผ่พระพุทธศาสนา

    ReplyDelete
  30. สาธุเจ้าค่ะ บรรยากาศสงบ สวยงามมาก เหมาะสำหรับการเผยแผ่พระพุทธศาสนามากๆ เจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  31. ปักหลักพระพุทธศาสนาในเยอรมันได้ พระพุทธศาสนาก็ไปได้ทั่วโลก ชัวร์ สู้ๆๆๆ...

    ReplyDelete
  32. อนุโมทนาสาธุๆๆ เห็นแล้วปลื้มๆๆ

    ReplyDelete
  33. สุดยอดดดดดด กราบอนุโมทนาบุญ ท่านเจ้าคุณหลวงพี่วิโร และคณะสงฆ์ วัดพระธรรมกายบาวาเรีย เจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  34. สุดยอดดดดดด กราบอนุโมทนาบุญ ท่านเจ้าคุณหลวงพี่วิโร และคณะสงฆ์ วัดพระธรรมกายบาวาเรีย เจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  35. เห็นแล้วชื่นใจ

    ReplyDelete
  36. กราบขอพระคุณพระอาจารย์ด้วยความเคารพเจ้าค่ะ...สำหรับเรื่องดีดีที่น่าประทับใจ...สาธุ...สาธุ สาธุเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  37. ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ครับ ปลื้มด้วยคนครับ

    ReplyDelete
  38. การที่มีโอกาสเดินทางไปจำพรรษาที่ศูนย์สาขาในต่างแดนคงจะเป็นประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการขยายงานพระพุทธศาสนาของพระอาจารย์อย่างมากนะคะ

    ReplyDelete
  39. สาธุค่ะ

    ReplyDelete
  40. กราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุครับ

    ReplyDelete