Monday, August 29, 2016

ตอนที่ ๑๘ พระมหาเถระ ๒๐ พรรษา ช่วงเวลาอันทรงคุณค่าในร่มกาสาวพัสตร์

       วันออกพรรษา ปี ๒๕๕๗ เป็นช่วงเวลาของการเวียนมาบรรจบครบ ๒๐ พรรษา ของพระภิกษุรุ่น ๑๑ บวชปี ๒๕๓๘ ของวัดพระธรรมกาย

     ก่อนอื่นต้องขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียกพระภิกษุตามพรรษาของการเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาดังนี้

- พระภิกษุผู้บวชใหม่ พรรษาตั้งแต่ ๑ - ๕ เรียกว่า "พระนวกะ"
- พระภิกษุที่มีอายุพรรษา ๖ - ๑๐ พรรษา เรียกว่า "พระมัชฌิมะ"
- พระภิกษุที่มีอายุพรรษาเกิน ๑๐ พรรษาขึ้นไปแต่ยังไม่ถึง ๒๐ พรรษา เรียกว่า "พระเถระ"
- ภิกษุที่มีอายุพรรษาตั้งแต่ ๒๐ พรรษาขึ้นไป เรียกว่า "พระมหาเถระ"


      เมื่อผ่านเวลามา ๒๐ พรรษาจึงได้เป็นพระมหาเถระ  กว่าจะมาถึงวันนี้ก็ต้องผ่านประสบการณ์ต่างๆมากมายในเพศภาวะของความเป็นสมณะ ต้องรับภาระหน้าที่ของวัดและของการคณะสงฆ์เพื่อจะปกป้องพระพุทธศาสนาและเผยแผ่ธรรมะไปสู่ใจของชาวโลก พระภิกษุทุกรูปจึงมีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของพระพุทธศาสนา

     การได้สนองงานพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง การได้ช่วยรับภาระของหมู่คณะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการอยู่ในเพศภาวะของความเป็นสมณะ สำหรับพระภิกษุทุกรูปในวัดพระธรรมกายอย่างยิ่งทีเดียว 
       อาตมาจะเล่าเหตุการณ์ที่ประทับใจที่ช่วงเวลาหนึ่งที่ได้รับบุญช่วยงานของหมู่คณะ เป็นการแสดงความกตัญญูบูชาธรรมต่อมหาปูชนียาจารย์
นั่นคือการจัดงานสลายร่างคุณยายมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ซึ่งท่านได้ละสังขาร เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๔๓



       หลวงพ่อธัมมชโย กำหนดการสลายร่างคุณยายอาจารย์ในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕  ซึ่งเป็นวันที่เดียวกับที่หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญและคุณยายทองสุก ละสังขาร 
       ซึ่งในเวลาต่อมาหลวงพ่อได้กำหนดให้วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ของทุกปี คือ วันมหาปูชนียาจารย์
       ในช่วงปลายปี ๒๕๔๔ พอออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อธัมมชโย ก็กำหนดวันสลายร่างคุณยาย และปรารภว่า ในงานสลายร่างคุณยาย  จะนิมนต์เจ้าอาวาสจาก๓๐,๐๐๐ กว่าวัดทั่วประเทศมาสวดมาติกา  
        จากนั้นหลวงพ่อก็เรียกประชุมลูกพระมหาเปรียญธรรมที่บวชมาจากสามเณรทั้งหมดแล้วแจ้งว่า "ปีหน้าจะสลายร่างคุณยายฯ หลวงพ่ออยากนิมนต์เจ้าอาวาสจาก๓๐,๐๐๐ กว่าวัดทั่วประเทศมาสวดมาติกา ในงานคุณยาย ให้ลูกมหาทุกรูปดรอบการเรียนบาลีของปีการศึกษานี้ไว้ก่อนแล้วลงพื้นที่ไปนิมนต์เจ้าอาวาสมาให้ครบทุกวัด"



       ลูกๆพระมหาเปรียญก็รับปากกับหลวงพ่อว่า "ปีการศึกษานี้ลูกๆจะดรอปการเรียนบาลีไว้ก่อนแล้วจะทุ่มเวลาทั้งหมดไปกับการนิมนต์พระ เพื่อจัดงานสลายร่างคุณยายให้สมบูรณ์แบบ"
       จากนั้นประชุมแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ แบ่งพื้นที่ในการประสานงานนิมนต์พระทั่วประเทศ
       อาตมาประสานงานที่ภาคใต้ โดยให้พระรูปอื่นเลือกจังหวัดที่ต้องการไปก่อน แล้วค่อยเลือกทีหลังจังหวัดยังไม่มีใครเลือก คือ จังหวัดระนองและจังหวัดพังงา ตอนที่เลือกสองจังหวัดนี้ยังนึกไม่ออกว่า จังหวัดระนอง อยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย แต่คิดในใจว่า "การนิมนต์พระมางานสลายร่างคุณยายครั้งนี้ ถึงจะยากสักเพียงไหน เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อบูชาธรรมคุณยาย ผู้ที่สร้างวัดให้เราได้มาสร้างบารมีกัน ผู้มีบุญคุณสุดจะนับจะประมาณได้ จะทุ่มเทแรงกายและแรงใจทำให้งานนี้สำเร็จอย่างสมบูรณ์ที่สุด" ส่วนจังหวัดพังงา เคยได้เห็นภาพอยู่บ้าง เพราะเคยเห็นภาพเกาะตาปู ที่ติดฝาผนังในห้องเรีียน ตอนเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้นแล้ว
       มีหน่วยงานออกฎีกามาให้โดยขอข้อมูลจากเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดแต่ละจังหวัด เมื่อได้ฎีกาแล้ว ก็เตรียมการเดินทาง โดยหน่วยที่ดูแลเรื่องเช่ารถช่วยจัดรถให้ จากนั้นก็เดินทางไปลงพื้นที่

       การเดินทางไประนองนั้น ออกจากวัดพระธรรมกายแล้วขึ้นทางด่วนไปลงฝั่งธนบุรี จากนั้นใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ ระยะทาง ๙๐ กิโลเมตร แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข ๔ (ถนนเพชรเกษม) ผ่านเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ถึงสี่แยกปฐมพร (ชุมพร) เลี้ยวขวาไปจนถึงจังหวัดระนอง รวมระยะทาง ๕๖๘ กิโลเมตร  

       พอเลยสี่แยกปฐมพรไป ถนนหนทางก็แคบลง วิ่งผ่านป่าเขา จนทะลุป่าจึงได้เห็นชุมชน ดูจากแผนที่ จึงทราบว่าสถานที่นี้ชื่อว่า อำเภอกระบุรี สถานที่ๆเป็นคอคอดกระนั่นเอง ที่เคยได้ยินข่าวว่า จะขุดคอคอดกระนี้เพื่อให้ทะเลเชื่อมกัน ให้เรือสินค้าผ่านง่ายขึ้นและประหยัดเวลา แต่ยังทำไม่สำเร็จจนถึงปัจจุบัน 


        จากนั้นนำฎีกาไปถวายเจ้าอาวาสวัดต่างๆ  ได้เข้าไปหาหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอกระบุรี วัดจันทาราม ท่านต้อนรับเป็นอย่างดี ได้สอบถามถึงเส้นทางที่จะไปของวัดต่างๆ ท่านก็แนะนำให้เป็นบางวัด ก็ไปตามนั้น และไปหาหลวงพ่อเจ้าคณะตำบลน้ำจืด วัดสุวรรณคีรี สอบถามเส้นทางไปวัดต่างๆที่เหลือ ท่านก็ให้พระลูกวัด นั่งรถไปด้วยเพื่อนำทาง เพราะที่อำเภอนี้มีแต่ป่าเขา หนทางที่เข้าไปในป่าก็สังเกตยาก 
         พระภิกษุเจ้าของพื้นที่ ท่านก็พาไปวัดต่างๆจนเหลือวัดสุดท้ายชื่อวัดทุ่งโก ซึ่งอยู่ลึกมาก ท่านไม่คุ้นเคยทาง เพราะเป็นวัดใหม่ไม่เคยมา ในเวลานั้นก็เริ่มมืดค่ำ ฝนก็ตกปรอยๆลงมา ท่านถามว่า จะไปต่อไหม? บอกท่านว่า ไปต่อ แล้วนำทางพารถวิ่งลึกเข้าไปในป่า  ถนนเป็นดินธรรมดา รถวิ่งลุยโคลนเข้าไป สองข้างทางมืดมิด ไม่เห็นบ้านคนเลย มองเห็นแสงไฟอยู่ลิบๆ แล้วก็ไปสุดถนนเกือบจะตกเขาแล้ว หาทางไปไม่เจอ เห็นแสงไฟลอดจากบ้านหลังหนึ่งจึงเข้าไปหา พอเจ้าของบ้านเห็นพระมาหาก็รีบออกมาต้อนรับ ถามว่า หลวงพี่จะไปไหน? ก็บอกเขาว่า ไปวัดทุ่งโก เขาก็บอกว่า ข้ามห้วยข้างหน้านี้ก็ถึงแล้ว จึงขอบใจเขาแล้วมาขึ้นรถ
       รถวิ่งไปสักพักเจอสะพานข้ามห้วย พอพ้นสะพานก็เห็นศาลาวัด เกิดความอุ่นใจขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าเรามาถูกทาง ถ้ามาไม่ถูกคงจะตกเขาแน่ๆ เพราะสุดทางพอดี  พอเข้าไปในเขตวัด และลงจากรถ สุนัขก็เห่าหอนกันเกรียวกราว ในวัดก็ไม่มีไฟฟ้า มืดมิดมองไม่เห็นอะไรเลย อาศัยแสงไฟจากรถยนต์จึงมองเห็นศาลา พอลงจากรถก็เดินเข้าไปในศาลา 
       สักครู่ หลวงพี่เจ้าอาวาสก็ถือไฟฉายเดินออกมาไล่สุนัขให้  พอได้เจอเจ้าอาวาสแล้ว รู้สึกอุ่นใจหน่อย ท่านก็ห่มจีวรแล้วพาขึ้นไปบนศาลา ท่านหาน้ำเปล่าและปานะมาให้ฉัน จากนั้นก็กราบท่านแล้วถวายฎีกา บอกท่านว่า จะนิมนต์ไปสวดมาติกาครับ ท่านก็รีบพูดขึ้นมาว่า สวดมาติกาอะไรตอนนี้ อ๋อ ไม่ใช่ตอนนี้ครับ จะนิมนต์ ไปสวดมาติกาในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ปีหน้าครับ 
       ท่านรับฎีกามาอ่านดูแล้วถามว่า เอารายชื่อมาจากไหนหรือ ข้อมูลถูกต้องและมาวัดถูกด้วย ที่ท่านถามอย่างนั้น  เพราะท่านแปลกใจว่า วัดท่านอยู่ในป่าลึกไม่น่าจะมีใครรู้จัก เดินทางมาถูก เพราะพื้นที่แถบนี้เคยเป็นพื้นที่สีชมพู ถิ่นของคอมมิวนิสต์ แต่ตอนนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจนเจริญขึ้นตามลำดับ มีบ้านเรือนเพิ่มขึ้น จนเป็นหมู่บ้าน มีวัด มีโรงเรียนเกิดขึ้น 
       ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันออกเฉียงเหนือมาซื้อที่ไว้ แล้วทำสวนกาแฟ อยากทำบุญ ก็ช่วยกันสร้างวัดแล้วนิมนต์พระมาอยู่ ได้ทราบทีหลังว่า เจ้าอาวาสมาจากจังหวัดสุรินทร์  พอท่านถามอย่างนั้น ก็แจ้งท่านว่า ได้รายชื่อจากเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดครับ ท่านถามว่า มาจากปทุมธานีเลยหรือ แจ้งท่านว่า ใช่ครับ ท่านพูดต่ออีกว่า อุตส่าห์เดินทางมาถึงที่นี่ มีความตั้งใจเป็นอย่างมาก ท่านก็รับปากจะไปร่วมงานสวดมาติกาในงานสลายร่างคุณยายอย่างแน่นอน
      พอถึงวันงานท่านก็มาจริงๆ และพาสามเณรมาฝากเรียนบาลีด้วย ตอนนี้สามเณรของท่านเรียนจบป.ธ.๖ ไปแล้ว การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่พิเศษมาก
     การนิมนต์พระมางานสลายร่างคุณยาย ต้องนิมนต์ทุกวัด จะอยู่ซอกไหนมุมไหนของประเทศไทยเราก็ต้องไปให้ถึง คำว่า ขึ้นเขาลงห้วย ที่ได้ยินมานาน ได้นำมาใช้ในงานครั้งนี้ เรียกว่า ขึ้นเขาลงห้วยอย่างแท้จริง แถมอีกคำหนึ่งคือ ล่องเรือข้ามเกาะ ก็ได้ใช้ เพราะบางวัดอยู่บนเกาะก็ต้องนั่งเรือข้ามเกาะไป จนนิมนต์ได้ครบทุกวัด 
     ที่จังหวัดระนองฝนตกชุกตลอดปี จึงได้ชื่อว่า จังหวัดที่มีฝนแปดแดดสี่ ในหนึ่งปี มีแดดแค่สี่เดือน นอกนั้นฝนตกตลอด บางวัดเจ้าอาวาสมรณภาพไปแล้วบ้าง ลาสิกขาไปแล้วบ้าง ก็ต้องเปลี่ยนฎีกาใหม่ ซึ่งกว่าจะครบทุกวัด ต้องลงพื้นที่อีกหลายรอบ
     ฎีกาที่นิมนต์พระ หลวงพ่อธัมมชโยจะลงลายเซ็นด้วยตัวท่านเองทุกฉบับ กว่าจะครบสามหมื่นวัด ปากกาหมดไปหลายกล่องทีเดียว
    นี่คือความใส่ใจที่หลวงพ่อมีต่อการจัดงานให้กับครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพรักมาก ท่านใส่ใจทุกรายละเอียด
    ในช่วงที่ไปส่งฎีกานิมนต์พระ หลวงพ่อให้ถ่ายรูปเจ้าอาวาสมาด้วย เพื่อจะได้ใส่รูปในจดหมายขอบคุณ 
   

    เมื่อถึงวันงานสลายร่างคุณยายฯ วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ คณะสงฆ์ก็เดินทางมาถึงตั้งแต่กลางคืนวันที่ ๒ เพราะบางจังหวัดอยู่ไกลต้องออกเร็วเพื่อจะให้มาทันเวลา แต่ละวัดที่นิมนต์มา มีทั้งหมด ๓ รูปคือ เจ้าอาวาสและผู้ติดตามอีก ๒ รูป พระที่มาร่วมงานในวันนั้นร่วมแสนรูป พื้นที่จัดงานอยู่ลานธรรมมหาธรรมกายเจดีย์ พระนั่งเต็มพื้นที่มองดูเหลืองอร่ามไปหมด น่าปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ทำงานนี้สำเร็จลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ วันนั้นในลานมหาธรรมธรรมกายเจดีย์ สาธุชนเนืองแน่นมาก จนพื้นที่ที่เตรียมไว้ให้รองรับสาธุชนได้ ๑๕๐,๐๐๐ คน ไม่สามารถรองรับได้เพียงพอ ทำให้มีสาธุชนบางส่วนล้นออกไปนั่งพื้นที่รอบนอกของลานธรรมมหาธรรมกายเจดีย์ คณะสงฆ์และสาธุชนที่มาร่วมงานในวันนั้น ล้วนปลื้มใจกับพิธีกรรมที่ได้มาเห็นเป็นอย่างยิ่ง 



      พอเสร็จงาน หลวงพ่อก็ให้นำจดหมายขอบคุณ ไปส่งเจ้าอาวาสทุกวัดอีกครั้ง เพื่อกราบขอบพระคุณท่านที่เมตตามาร่วมงานสลายร่างคุณยาย จนงานสำเร็จด้วยดีอย่างสมบูรณ์แบบ


    หลวงพ่อได้จัดงานให้ครูบาอาจารย์อย่างสมเกียรติ เป็นการแสดงถึงความกตัญญูที่ท่านมีต่อคุณยายผู้ถ่ายทอดวิชชาให้และนำพาได้มาบวชในพระพุทธศาสนา 



      ผองศิษย์ที่ได้สนองงานพระเดชพระคุณหลวงพ่อ รู้สึกปลื้มใจ ที่ได้ตอบแทนคุณของท่านที่ได้สั่งสอนและให้โอกาสศิษย์ทุกรูปทุกคนได้มาสร้างบารมีในชาตินี้


       ลูกกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่เมตตาให้ลูกได้รับบุญใหญ่ในครั้งนี้ครับ

หลวงพ่อได้หล่อรูปเหมือนคุณยายด้วยทองคำประดิษฐานภายในวิหารคุณยาย




   
      นี้คือประสบการณ์ในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่มีโอกาสได้สนองงานหลวงพ่อจนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
        พรรษาที่ ๒๐ อาตมาไปจำพรรษาที่วัดพระธรรมกายเดนมาร์ก ได้รับมุทิตาสักการะจากภาคพื้นยุโรปในตอนประชุม ๒๔ วัดภาคพื้นยุโรป เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๗

งานมุทิตาพระมหาเถระและพระเถระภาคพื้นยุโรป ณ วัดพระธรรมกายเดนมาร์ก










     วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ งานกฐินที่วัดพระธรรมกาย ปทุมธานี ได้รับมุทิตาที่เต็นท์ตรงประตู
 ๒ จากพระน้องๆพรรษา ๙/พรรษา ๑๙ เป็นผู้จัดงาน และญาติโยมสาธุชนผู้เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน มีการออกร้านถวายน้ำปานะหลายสิบร้านด้วยกัน 



      วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ ได้รับมุทิตาจากโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดพระธรรมกาย อีกครั้ง 



โรงเรียนพระปริยัติธรรมจัดงานมุทิตาพระมหาเถระและพระเถระ

พระมหาเถระมาเจริญพุทธมนต์ในงานมุทิตาพระมหาเถระและพระเถระที่โรงเรียนพระปริยัติธรรมโดยมีพระอาจารย์ชัยพร วรฐิโต
อดีตหัวหน้าหมู่กุฏิสามเณร ปี ๒๕๓๔-๒๕๓๕
เป็นประธานสงฆ์









     

       ขอกราบขอบพระคุณคณะสงฆ์ทุกรูปที่จัดงานมุทิตาให้ในครั้งนี้ครับ 
      ขออนุโมทนาบุญกับอุบาสกอุบาสิกาและสาธุชนที่ได้มาร่วมมุทิตา ๒๐ พรรษาของอาตมา ขอให้ได้บุญเยอะๆทุกคนจ้า
      ขอน้อมนำบุญกุศลทั้งหมดที่ได้สั่งสมมาตลอดชีวิต ให้ทุกท่านได้บุญด้วยกันจ้า


บรรยากาศที่เมืองระนอง 










ขอขอบคุณภาพจากสหพันธ์มหาเปรียญ Dmc.tv
และGoogle.com

อ.อินทปัญญา
๒๙ ส.ค.๕๙


















 



























































58 comments:

  1. อนุโมทนาด้วยครับ

    ReplyDelete
  2. สนุกครับ สาธุ

    ReplyDelete
  3. สาธุครับผม ปลื้มมมมม

    ReplyDelete
  4. กราบอนุโมทนาบุญต่อพอจ.มากๆเลยค่ะ สาธุค่ะ

    ReplyDelete
  5. กราบอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์ในทุกๆบุญด้วยความปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง นับเป็นประวัติศาสตร์ชีวิตและประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่พระอาจารย์เมตตานำมาเล่าให้ฟังเพื่อเป็นต้นบุญต้นแบบในการสร้างบารมีของพวกเรา กราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  6. กราบอนุโมทนาบุญค่ะ

    ReplyDelete
  7. การกระทำมีคุณค่ามากมายยิ่งกว่าสิ่งใด อนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ

    ReplyDelete
  8. สาธุๆๆ ขออนุโมทนาบุญครับ
    "วิสัยของบัณฑิต ย่อมฝึกฝนอบรมตนเอง และสร้างบุญบารมี"
    ดังนั้น เวลาที่ล่วงเลยผ่านไป จึงมีคุณค่า เป็นทั้งประโยชน์ตนและส่วนรวม และเป็นประวัติศาสตร์ชีวิตที่น่าปลื้มปีติใจ มีความสุข ตลอดไปฯ

    ReplyDelete
  9. กราบอนพโมทนาบุญค่ะ

    ReplyDelete
  10. กราบอนุโมทนา สาธุเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  11. กราบมุฑิตาพระผู้มีบุญญาบารมี ได้บวชตั้งแต่ยังเยาว์ มีเส้นทางการสร้างบารมีที่งดงาม อนุโมทนาค่ะ

    ReplyDelete
  12. ธรรมสอนสั่งหยั้งใจให้เป็นสุข
    ธรรมช่วยทุกข์หมดไปใจสุขศานติ์
    ธรรมรักษาจิตใจให้เบิกบาน
    ธรรมบันดาลให้สุขตลอดไป
    ชัยชนะพระธรรมนำดวงจิต
    ชัยชนะพิชิตจิตผ่องใส
    ชัยชนะหมู่มารทุกชาติไป
    ชัยชนะให้พระชนะมาร...

    ReplyDelete
  13. เห็นแล้วนับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ

    ReplyDelete
  14. กราบนมัสการพระอาจารย์
    และอนุโมทนาบุญค่ะ
    สาธุ สาธุ สาธุ

    ReplyDelete
  15. สาธุสาธุสาธุ

    ReplyDelete
  16. กราบอนุโมทนาบุญครับ

    ReplyDelete
  17. พระอาจารย์เขียนดีมากๆๆ เลยค่ะ อ่านแล้วได้ทบทวนบุญย้อนเหตุการณ์งานบุญที่ผ่านมาให้ปลื้มอีกครา อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

    ReplyDelete
  18. #ปลื้มใจกับพระทุกรูปผู้ได้โอกาสครองผ้ากาสาวพัสตร์จริงๆ..
    #กราบอนุโมทนาบุญค่ะ

    ReplyDelete
  19. อนุโมทนาสาธุการครับ

    ReplyDelete
  20. สาธุ กราบอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  21. กราบอนุโมทนาบุญ กับพระมหาเถระทุกรูป สาธุ สาธุ สาธุครับ

    ReplyDelete
  22. กราบอนุโมทนาบุญครับ

    ReplyDelete
  23. กราบอนุโมทนาบุญครับ

    ReplyDelete
  24. กราบอนุโมทนาบุญค่ะ ได้มีโอกาส ไปนิมนต์พระ งานสลายร่างคุณยาย ทำให้มีความลื่น มาจนทุกวันนี้ สาธุสาธุสาธุ

    ReplyDelete
  25. กราบอนุโมทนาบุญค่ะ สาธุๆๆๆ

    ReplyDelete
  26. กราบอนุโมทนาบุญค่ะ สาธุๆๆๆ

    ReplyDelete
  27. อนุโมทนาบุญค่ะ

    ReplyDelete
  28. กราบอนุโมทนาบุญคับ

    ReplyDelete
  29. อนุโมทนาบุญค่ะ

    ReplyDelete
  30. กราบอนุโมทนาบุญค่ะ... สาธุค่ะ

    ReplyDelete
  31. กราบนมัสการครับ ผมยังเคยเข้าอบรมสามเณรตอนที่พระอาจารย์เป็นพระพี่เลี้ยงครับปลื้มครับสาธุๆ

    ReplyDelete
  32. กราบอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ สาธุ

    ReplyDelete
  33. กราบอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ สาธุ

    ReplyDelete
  34. ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ

    ReplyDelete
  35. กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญกับหลวงพี่ด้วยเจ้าค่ะ ทีทำหน้าที่นิมนต์พระสังฆาธิการ มางานสลายร่างคุณยายได้อย่างเรียบร้อยสมบูรณ์แบบทุกประการ อ่านแล้วซาบซึ้งถึงความมุ่งมั่นทำตามหน้าที่ด้วยหัวใจี่มอบให้ครูบาอาจารย์ สาธุ

    ReplyDelete
  36. สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  37. สาธุ การบวช กว่าจะได้20พรรษา ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องให้กำลังในการทำความดีของพระมหาเถรเหล่านี้ แสดงมุทิตาจิต กับท่านเหล่านี้ สาธุ

    ReplyDelete
  38. สุดยอด นับเป็นประวัติศาสตร์ชีวิตและประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่พระอาจารย์เมตตานำมาเล่าให้ฟังเพื่อเป็นต้นบุญต้นแบบในการสร้างบารมี สาธุครับ

    ReplyDelete
  39. สาธุเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  40. กราบอนุโมทนาสาธุการ สาธุครับ

    ReplyDelete
  41. กราบขอบพระคุณกราบอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์ขุนพลกล้าแห่งกองทัพธรรม บุกไปถึงไหนก็ขอบารมีพระนิพพานโปรดดลบันดาลคุ้มครองพอจ.ให้นำธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ไปสว่างในใจชองชาวโลกเลยนะคะ กราบนมัสการเจ้าค่ะ สาธุ

    ReplyDelete
  42. กราบมุทิตาสักการะ...แด่พระมหาเถระพระเถระทุกรูปเจ้าค่ะ...กราบอนุโมทนาบุญ...ในเส้นทางการสร้างบารมีใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์...สาธุ

    ReplyDelete
  43. พิธีชำระร่างจะจัดใหญ่หรือเล็ก โปรดจงดูที่เจตนา ผมขออนุโมทนากับบุญที่เกิดขึ้นในงานวันนั้น ประโยชน์มากมาย เช่น ได้รวมพระ โยมเห็นเนื้อนาบุญ โยมได้ถวายของปราณีต

    ReplyDelete
  44. ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยคะ

    ReplyDelete
  45. กราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ

    ReplyDelete
  46. กราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ

    ReplyDelete
  47. ขอให้ทุกท่านได้บุญด้วยกันทุกบุญ และช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่โลกไปตราบนานเท่านาน

    ReplyDelete
  48. อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ปกป้องพระพุทธศาสนาค่ะ

    ReplyDelete